นวดไทย-นวดน้ำมัน ต่างกันอย่างไร? ‘การนวดแบบไหนที่เหมาะกับคุณ’


การนวดคลายเครียด นวดผ่อนคลาย เป็นวิธีหนึ่งที่หนุ่มสาวออฟฟิศผู้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ มักเลือกเป็นวิธีคลายเครียดของตัวเองเมื่อมีเวลาว่างๆ
การนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใช้งานหนักจากการทำงาน แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี หลังจากนวดเสร็จ ร่างกายจะผ่อนคลาย สบายตัว สบายใจ รู้สึกสดชื่นและกระฉับกระเฉงขึ้น
บางคนสามารถนวดกดจุดด้วยท่าง่ายๆ เพื่อคลายเครียดให้ตัวเองได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่คิด ทำให้ร้านนวดแผนไทยหรือร้านนวดน้ำมันจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
แต่ไปถึงร้านแล้วก็ยังงงๆ ว่าจะต้องเลือกการนวดแบบไหน นวดไทยต่างกับการนวดน้ำมันอย่างไร อยากผ่อนคลายต้องเลือดนวดแบบไหน อยากแก้อาการปวดเมื่อยมากๆ ต้องเลือกนวดแบบไหน เราลองมาดูความแตกต่างของการนวดแผนไทยและนวดน้ำมันที่เป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มสาวชาวออฟฟิศกันเลยค่ะ เพื่อที่จะได้เลือกนวดได้อย่างตรงจุด กลับบ้านไปไม่ปวดเมื่อยมากกว่าเดิม

นวดไทย
นวดไทย เป็นการนวดแบบแห้ง ไม่ใช้น้ำมัน โดยแบ่งเป็นเป็นการนวด 2 สายใหญ่ๆ คือ นวดแบบเชลยศักดิ์และนวดแบบราชสำนัก
นวดแบบเชลยศักดิ์ เป็นการนวดที่เน้นการช่วยเหลือกันเองในครอบครัว ผู้นวดสามารถใช้ ศอก แขน ขา ส้นเท้า ฝ่าเท้า การดัดตัว เป็นต้น เพื่อเป็นการผ่อนแรงของผู้นวด
นวดแบบราชสำนัก เป็นการนวดที่ใช้ในพระราชวัง ท่าต่างๆ จึงสุภาพและวิธีการนวดจะใช้เฉพาะนิ้วมือและผ่ามือเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนักในการนวดได้


การนวดแผนไทย นวดเพื่อบำบัดรักษาอาการต่างๆ เช่น ปวดยอก ปวดคอ ปวดหลัง ยอกหลัง ปวดสะโพก เคล็ด แพลง อาการชา เนื่องจากไหลเวียนเลือดไม่ดี เป็นต้น และยังเป็นการนวดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ ของการทำงานของร่างกายในส่วนที่ยังทำงานไม่ได้ปกติ เช่น นวดเพื่อฟื้นฟูเด็กพิการ นวดเพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต นวดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ นวดเพื่อฟื้นฟูผู้หญิงหลังคลอด

โดยการนวดไทยส่วนใหญ่จะนวดแบบเชลยศักดิ์ แต่ที่ร้าน Chaari Spa จะเป็นการนวดรวม 2 สายใหญ่ๆ คือ นวดแบบเชลยศักดิ์และนวดแบบราชสำนักผสมกันซึ่งจะช่วยบำบัดอาการต่างๆ ได้ดีกว่า โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

การนวดประคบสมุนไพร
เป็นการนวดแผนไทยที่นำลูกประคบมาใช้นวดด้วย การนวดประคบสมุนไพรเป็นเทคนิคการยืดกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ ให้เกิดการผ่อนคลาย และการนำเทคนิคการใช้ลูกประคบโดยอาศัยความร้อนและคุณสมบัติ ของสมุนไพรไทย เพื่อกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด เพื่อความยืดหยุ่นและลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อจากการทำงานหนัก หรือการล้าของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอาการเรื้อรัง ใช้เวลา 90 นาที โดยจะแบ่งเป็นนวดประคบสมุนไพร 30 นาที และนวดแผนไทยอีก 60 นาที


นวดเท้า นวดเท้าเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากการนวดเท้านั้นเป็นการนวดกดจุดแต่ละจุด เพราะฝ่าเท้ามีจุดศูนย์รวมที่นวดแล้วได้ประโยชน์ในส่วนของ ไหล่ สะบัก ตา และยังช่วยปัญหาเรื่องลำไส้ กระเพาะอาหารอีกด้วย

การนวดเท้าทั่วๆ ไป มักจะใช้ครีมหรือยาหม่อง หรือบางครั้งจะนวดด้วยน้ำมันที่ไม่มีกลิ่น ซึ่งเป็นการนวดเน้นกดจุด ของฝ่าเท้า ทั้ง 36 จุด บนฝ่าเท้า นวดโดยใช้นิ้วมือ ฝ่ามือนวด และใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

นวดดิฟทิชชู (Deep Tissue Massage)

หรือที่เรียกว่า “การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก” เป็นการนวด รีดเส้น ลงร่องกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนัก หรือผู้ที่ ต้องการ รีด กดจุด ในส่วนของกล้ามเนื้อที่ตึงตัว ให้ผ่อนคลายลง เพื่อให้มีการปรับสมดุลโครงสร้างของร่างกายเพื่อคลายความตึงตัวความเครียดของกล้าเนื้อส่วนลึก เส้นเอ็น พังผืด ที่ยึดเกาะ

จังหวะของการนวดจะเน้นแรงกดน้ำหนักให้มากขึ้น นวดให้ถึงเนื้อเยื่อส่วนลึกลงไปใช้จังหวะที่ช้าลง แต่จะกระชับมากขึ้นโดยการใช้นิ้วมือ นิ้วหัวแม่มือ ข้อศอกเพื่อเพิ่มแรงกสดไปที่จุดมุ่งเน้น เฉพาะที่ต้องการรักษา ซึ่งช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เพิ่มความสมดุล และการประสานงานการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้มีการทรงท่าที่ดี กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย


นวดอโรมา – นวดน้ำมัน

เป็นการนวดนำมันแบบผ่อนคลายเบาๆ Relax ทั้งร่างกาย ด้วยน้ำมันกลิ่นหอมๆ จะไม่มีการเน้น รีดเส้น หรือกดจุด ใดๆ เป็นพิเศษ เมื่อนวดเสร็จแล้วจะได้ความรู้สึกที่ เบา สบาย ผ่อนคลาย ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

การนวดน้ำมัน การนวดอโรมาเป็นที่นิยมในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ต้องการคลายเครียดและผ่อนคลายจากการทำงาน รวมถึงสาวๆ ที่อยากมีผิวสวย ผิวพรรณชุ่มชื้น มักจะเลือกการนวดอโรมานี้เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและบำรุงผิวให้เนียนนุ่มด้วยน้ำมัน ซึ่งการนวดอโรมาของทางร้าน Chaari Spa จะมีชื่อเรียกว่า ‘Aromatic Tea Therapy’ เป็นการผสมผสานกันระหว่างกลิ่นชาสุดพิเศษจากทางร้านและน้ำมัน ซึ่งมี 5 กลิ่นด้วยกัน คือ กลิ่นชาเขียว ช่วยดีท็อกซ์สารพิษจากผิวหนัง กลิ่นชาแดง ช่วยลดเซลลูไลท์ กลิ่นชาเอิร์ลเกรย์ ช่วยเพิ่มความสดชื่น กลิ่นชาขาว ที่มีส่วนผสมของแอนตีออกซิแดนท์ และกลิ่นลาเวนเดอร์ยอดฮิตของทางร้าน ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย หลับสบายขึ้น

นอกจากนี้ทางร้านยังกระซิบมาว่า สาวๆ ที่นิยมนวดอโรมามักจะเลือกการสครับผิวควบคู่กันไปด้วย โดยจะสครับผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพก่อน หลังจากนั้นจึงล้างตัวแล้วนวดด้วยน้ำมันเพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อัตราค่าบริการ สปา และ นวดแผนไทย

ความเป็นมาของสปา